โทรมาวันนี้ ลด 50%
Element Of Sound Element Of Sound Element Of Sound

19 ก.ย. 2560

Element Of Sound


  •     "Elemment Of Sound" เราอยากให้คุณได้สัผัส "ธาตุแท้แห่งเสียงดนตรีแท้จริง" อย่าง
  • ง่ายดายด้วย หูฟังยุคไทยแลนด์ 4.0 และ Speaker ระดับเทพดังต่อไปนี้











ลำโพงพกพาที่คุณควรเลือก

ลำโพงพกพาที่คุณควรเลือก

ต้องยอมรับว่าช่วง 5- 6 ปีที่ผ่านมาลำโพงไร้สายหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “ลำโพงบลูทูธ” ได้เข้ามามีบทบาทในวงการเครื่องเสียงเป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่ต่างมองหาลำโพงบลูทูธมาใช้ด้วยความสะดวกและการใช้งานครอบคลุม คือเป็นได้ทั้งลำโพงคอม ลำโพงพกพา จนทำให้แบรนด์ต่างๆเข็นลำโพงบลูทูธออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นต้องมีคำถามว่า “ลำโพงบลูทูธตัวไหนดี ?”  เพราะมันมีหลายรุ่นหลายขนาดจนทำให้คนสับสนและลังเลที่จะซื้อทีเดียว

เนื่องจากมีคำถามว่า เลือกลำโพงตัวไหนดีมาเยอะมาก วันนี้ทาง Element Of Sound จะมาแนะนำ วิธีการเลือกลำโพงบลูทูธ ให้เหมาะกับการใช้งานของเรา โดยมีเกณฑ์การตัดสินใจเลือกลำโพงหลักๆดังนี้

1. สถานที่ในการฟังเพลงผ่านลำโพงบลูทูธ (ตารางลำโพง ขนาดห้อง จำนวนคน)

2. จำเป็นต้องพกลำโพงไปบ่อยแค่ไหน?


ขนาดของลำโพงบลูทูธเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน ถ้าเราเป็นคนพกพาลำโพงบ่อยแน่นอนว่าเราควรเลือกลำโพงที่มีขนาดเล็ก แต่ถ้าเล็กเกินไปก็จะให้เสียงไม่ครอบคลุมหรือดังเพียงพอ สิ่งที่ต้องคิดสำหรับการใช้งานก็คือ
พกบ่อยแต่มีรถส่วนตัว – ใช้ลำโพงที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ได้ เพราะสามารถหิ้วลำโพงไปวางไว้ในรถพอจะใช้งานจริงก็หยิบออกมานิดเดียว ช่วงเวลาที่เดินถือก็แปปเดียวไม่ต้องแบกเยอะ
พกบ่อยแต่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัวเดินทาง – ลำโพงขนาดเล็กถึงกลางอาจจะเหมาะกว่าเพราะสามารถสะพายหลังใส่เป้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

3. ลุยมากน้อยแค่ไหน โดนน้ำหรือทราย?


คำถามง่ายๆคือ เราจะเอาลำโพงบลูทูธไปใช้งานในที่ต้องลุยในที่ลุยน้ำตากฝนเจอฝุ่นแค่ไหน? คนส่วนใหญ่จะบอกว่าใช้ลำโพงบลูทูธแค่ในห้องพกพาไปครั้งคราวบ้างไม่ได้ลุยเยอะหรอกมั้ง แต่ความเป็นจริงเรามักเอาลำโพงไปใช้ในสถานที่เสี่ยงๆโดยไม่รู้ตัวได้แก่

สถานที่ใกล้น้ำ –  ที่ใกล้ตัวสุดๆคือ ใช้งานในห้องน้ำระหว่างอาบน้ำ  ห่างมาหน่อยก็ริมสระน้ำระหว่างออกกำลังกาย สวีทกับแฟนหน่อยก็ริมสระในห้องโรงแรมส่วนตัว หรือริมทะเลเป็นต้น ซึ่งสถานที่พวกนี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้ลำโพงเสียสูงมากเพราะมักจะเอามือเปียกๆไปจับลำโพงได้
เลอะฝุ่นละออง ดินโคลน ทราย – สถานที่ที่มักมีปัญหามากสุดคือริมทะเลเพราะวางไว้ใกล้ทรายซึ่งเข้าไปในตัวลำโพงง่ายมาก วางในแคมป์กลางป่า อาจจะทำให้ดินเลอะได้ พวกนี้ก็ทำให้ลำโพงเสียได้เช่นกัน
ถ้าเราคิดว่าจะใช้งานในสถานที่พวกนีแล้ว ทางเราแนะนำให้เลือกลำโพงที่กันน้ำกันฝุ่นได้ โดยบางแบรนด์สามารถนำลำโพงไปลอยน้ำได้เลยเพราะมีระบบป้องกันฝุ่นและน้ำอย่างดี








4. อายุแบตเตอรี่



ลำโพงบลูทูธมีขนาดแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน ถ้าเราเป็นคนไม่ชอบชาร์จบ่อยก็แนะนำให้หาลำโพงที่ใช้ได้นาน ซึ่งโดยปกติลำโพงบลูทูธสามารถใช้ได้ตั้ง 5 ชั่วโมง ไปจนถึง 30 ชั่วโมง เลยทีเดียว อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเราจะชอบการใช้งานแบบไหน

5. Feature อื่นๆที่น่าสนใจ





ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆที่มีไว้ก็จะช่วยให้ตอบโจทย์การใช้งานลำโพงบลูทูธมากขึ้นได้แก่

Power Bank – ลำโพงบลูทูธบางรุ่นสามารถทำให้ตัวเองเป็น power bank ได้ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์คนหลายๆคนที่ไม่อยากถือของหลายชิ้งแต่ถือลำโพงตัวเดียวพอ
ต่อลำโพงหลายตัวได้ – เช่นสามารถเอาลำโพงบลูทูธ 2 ตัวมาเป็นลำโพงสเตอริโอซ้ายขวาได้ ซึ่งบางคนก็เอามาแทนลำโพงคอมเช่นกัน นี่ล่ะครับลำโพงที่ไม่ใช่แค่ลำโพง








15 ก.ย. 2560

หูฟังแบบไหนเหมาะและควรคู่กับคุณ?

 เชื่อว่าทุกคนเคยประสบและพบเจอหูฟังรูปแบบต่างๆมามากมาย แต่ทราบหรือไม่ว่าหลักแล้ว หูฟัง นั้นโดนแบ่งเป็นประเภทหลักๆกันกี่ประเภทบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับประเภทหลักๆ และ จุดเด่นของ หูฟัง

1 . Fullsize  Headphone ( Circumaural )

สำหรับหูฟังแบบ Full-size จะเป็นหูฟังที่มีขนาดใหญ่ ประเภทครอบเต็มหรือคาดบนศีรษะ โดยอาจจะเป็นหูฟังที่มีลักษณะแบบครอบทั้งใบหู หรือแนบบนใบหูก็เป็นได้ ลักษณะเด่นจะมีลำโพงขนาดค่อนข้างใหญ่ พอที่จะครอบหูทับเราได้ซึ่งช่วยให้เสียงที่ได้มีบรรยากาศ มีมิติที่ดี สมจริงใกล้เคียงลำโพงเครื่องเสียงภายในบ้าน โดยปกติหูฟังแบบ Full-Size จะเหมาะสำหรับการใช้งานแบบส่วนตัวและอยู่กับที่ ไม่เหมาะสำหรับการพกพา เพราะข้อจำกัดของหูฟังขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ยกเว้นหูฟังที่ต้องใช้งานประเภท Monitor ทั้งหลาย แต่ก็ยังเป็นการพกพาในสถานที่จำกัดเท่านั้น 




2 . Semi-Fullsize Headphone (Supra-aural)

หูฟังแบบ Semi-Full Size จะเป็นหูฟังแบบ Fullsize ที่ย่อส่วนลงมา ทำให้มีขนาดเล็กกว่า Full-Size พอสมควร โดยถูกออกแบบมาเพื่อสามารถเน้นการพกพาได้โดยสะดวก ลักษณะเด่นของลำโพงรวมทั้ง Pad จะเป็นแบบแนบหูครับ ไม่ได้ครอบปิดหูเหมือนแบบ Full-Sized ข้อดีคือทำให้มีขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น แต่มีข้อเสียคือป้องกันเสียงรอบข้างแทบจะไม่ได้เลย รวมถึงเสียงบรรยากาศที่ได้ ก็ไม่เท่ากับหูฟังแบบ Fullsize แต่จะได้ในเรื่องการพกพาที่สะดวกขึ้นมาแทนครับ


ด้วยจุดเด่นของการที่หูฟังมีขนาดเล็กและพกพาสะดวก จึงมีการคิดค้นดีไซน์หูฟังแบบ Semi-Full Sized ออกมาหลายรูปแบบ และการแบ่งแยกหูฟังในส่วนนี้ จะแยกตามรูปแบบการ design ของหูฟังเป็นหลักครับ โดยส่วนใหญ่จะแยกออกเป็นดังนี้

 Street Style / Earpad Headphone



                                                                                    Earpad Headphone

     
         หูฟังประเภท Street Style กับ Earpad Headphone จะถูกแบ่งแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด เพราะลักษณะที่แท้จริงของ Street Style คือ ต้องเป็นหูฟังที่มีก้านเชื่อมหูฟังทั้งสองข้างอ้อมไปทางด้านหลังหัว หรือที่เรียกกันว่า “ Neckband ” ในขณะที่ตัว Earpad Headphone จะเป็นก้านแบบคาดหัวที่เรียกกันว่า “ Headband ” แต่ปัจจุบัน ผู้ผลิตเริ่มนำมาใช้เรียกรวมๆกันว่าเป็น Street Style ทั้งหมด

Street Style 

          หูฟังแบบ Street Style เหมาะกับการพกพา โดยเฉพาะงานประเภท Outdoor หรือการออกกำลังกาย เพราะหูฟังจะล๊อคติดกับหูเราได้แน่นสนิท โดยเฉพาะเวลาที่ออกกำลังกายเบาๆStreet Style แท้ๆ ส่วนใหญ่จะมีก้านล๊อคตรงใบหูเพื่อช่วยล๊อคลำโพงให้แนบสนิทกับใบหูมากยิ่งขึ้น ซึ่งต่างจากหูฟังประเภท Earpad Headphone ที่เน้นการใช้งานในลักษณะที่นุ่มนวลกว่าและมีการเคลื่อนไหวน้อยกว่านั้น เหมาะจะใช้เวลาเดินทางไปไหนมาไหนแบบสบายๆ เช่น ขึ้นรถไฟฟ้า , นั่งรถเมล์ หรือเดินบนท้องถนนทั่วๆไป เนื่องจากจุดอ่อนของการคาดหัวแบบ “ Headband ” และไม่มีการล๊อคเข้าที่ก้านหว่างหูนั่นเอง



                                                                                    Street Style




3. Micro-Size


             หูฟังประเภท Micro Size เป็นหูฟังที่ถูกพัฒนามาจาก Semi Full-size เพื่อให้สามารถพกพาได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหูฟังที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดและมีจำหน่ายในท้องตลาดมากที่สุดในบรรดาหูฟังทุกประเภทและมีหลากหลายยี่ห้อ จุดเด่นของหูฟังประเภทนี้คือ มีระยะที่ไกล้ชิดกับหูทำให้ได้ยินเสียงทุกมิติชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นหูฟังที่ทำให้มีคุณภาพดีได้ยากที่สุดเช่นเดียวกันเพราะข้อจำกัดของขนาด Transducer ที่เล็กมากและระยะที่ใกล้ชิดกับหูมากๆ ทำให้การออกแบบเพื่อได้มิติเสียงที่ดีโดยเฉพาะในย่านความถี่ต่ำ ทำได้ยาก ดังนั้นหูฟังที่เด่นๆจริงๆจึงมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อและไม่กี่รุ่น 
                                                           


                              หูฟังแบบ Micro-Size นั้นสามารถแยกย่อยออกมาได้ 3 ประเภทหลักๆ โดยแบ่งออกเป็น Earbud , In-Ear และ Hybrid ซึ่งเป็นหูฟังที่ผสมผสานระหว่าง In-ear และ Earbud เข้าด้วยกัน ดังนั้นเรามาเริ่มกันที่หูฟังที่เป็นที่นิยมที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ก่อนเป็น อันดับแรกคือ



Ear Bud 

              สำหรับหูฟังแบบ Earbud นั้นถือว่าเป็นหูฟังสำหรับยุคแรกๆเลยทีเดียวและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะ player ส่วนใหญ่ที่ขายในท้องตลาด มักจะแถมหูฟังแบบ Earbud มาพร้อมเสร็จสรรพในชุดอยู่แล้ว กระทั่งพวก Handfree ที่ใช้กับมือถือทั้งหลายก็ยังใช้หูฟังแบบ earbud เป็นตัวยืนพื้น ดังนั้นเมื่อพูดถึงหูฟังคนส่วนใหญ่ย่อมนึกถึง earbud ก่อนเป็นอันดับแรก 
          การเลือกหูฟัง Earbud ให้ได้คุณภาพที่ดี ควรเน้นที่ Brand ที่มีชื่อเสียง และค่อยทดลองฟังเสียงก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะจะช่วยให้อัตราการเสี่ยงที่เจอหูฟังด้อยคุณภาพลดลงไปเยอะ 

                                                    

IN-EAR ( IEM ) 

              หูฟังแบบ IEM (In Ear Monitor) เป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับใช้งานในยุคปัจจุบันที่สุดแล้วครับ และยังเป็นหูฟังมาแรงในขณะนี้ จนหลายค่ายต่างก็พากันผลิตหูฟังประเภทนี้กันแทนที่หูฟังแบบ Earbud ครับ ที่สำคัญ ช่วงหลังๆมาทั้งเครื่องเล่น Mp3 Player ยี่ห้อต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนมาแถมเป็นหูฟังแบบ In-ear กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะมาแทนที่ตลาด Earbud จุดเด่นของหูฟังประเภท In-ear คือจะมีจุกยางเสียบเข้าไปในรูหู โดยจะมีหลายขนาดเพื่อความเหมาะสมของสรีระของแต่ละคน คุณภาพเสียงจะให้เสียงกลางและแหลมที่มีรายละเอียดดี มีความเพี้ยนต่ำ และยังได้ชื่อว่าเป็นหูฟังที่ให้ “มิติเสียง” ได้ดีที่สุดด้วย ทำให้การแยกแยะชิ้นดนตรีชัดเจน และเนื่องจากว่าตอนใช้งานต้องแยงลงไปในรูหูทั้งยังทำให้ช่วยบล็อกเสียงจากภายนอกไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปรบกวนได้มาก




4. Headset

     หูฟังแบบ Headset ในประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นคือมีไมโครโฟนยื่นออกมาด้วย สำหรับใช้ในการสื่อสาร งานด้าน Call center และพวกนักเล่นเกมส์ออนไลน์ทั้งหลายครับ ซึ่งนอกจากจะไว้ใช้ฟังเสียงแล้วยังได้คุยสนทนาสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย ทั้งนี้หูฟังแบบ Headset นี้จะระบุไว้ชัดเจนว่า สำหรับสื่อสารเฉยๆเท่านั้นหรือเพื่อเล่นเกมส์ด้วย 











               การเลือกซื้อหูฟังซักตัว นอกเหนือจากเรื่องเสียง Design และงบประมาณแล้ว เราก็ควรจะดูลักษณะการใช้งานด้วยครับว่าปกติส่วนใหญ่เราใช้งานในลักษณะไหน จริงๆแล้วของพวกนี้ก็ไม่ได้มีกฎกำหนดตายตัวว่าจะใช้อะไรแบบไหนที่ไหนยังไง เพราะผมยังเคยเห็นคนใส่ Full-Size เดินขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ซึ่งก็ดูเท่ห์ไปอีกแบบ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เราจะมีความสุขกับการฟังเพลงได้มากกว่าครับ







Element Of Sound

     "Elemment Of Sound" เราอยากให้คุณได้สัผัส "ธาตุแท้แห่งเสียงดนตรีแท้จริง" อย่าง ง่ายดายด้วย หูฟังยุคไทยแลนด์ 4.0...